ลมพิษ (Urticaria) ความผิดปกติของผิวหนังที่ไม่ควรมองข้าม  

                    หากผิวหนังมีอาการผื่นบวม แดง ผื่นมีขนาดที่ไม่เเน่นอน ขนาดของผื่นจะมีตั้งเเต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เเละมีอาการเเสบ คันในบริเวณที่มีผื่นจากที่กล่าวมานั่นคืออาการของลมพิษ ซึ่งเป็นอาการทางผิวหนังที่สามารถพบได้บ่อย 

                    ลมพิษ (Urticaria) เป็นอาการทางผิวหนังที่สามารถพบเห็นได้บ่อยเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยซึ่งพบมากสุดในช่วง 20-40 ปี โดยจะเป็นผื่นคันที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ลักษณะลมพิษ
จะเป็นผื่นหรือปื้นเเดง คันมาก ไม่มีขุย มีขนาดต่างๆตั้งเเต่ 0.5-10 เซนติเมตรเกิดได้ทุกส่วนบนร่างกายซึ่งจะเกิดขึ้นเร็ว ส่วนมากมักมีจะมีอาการไม่เกิน 24 ชั่วโมงผื่นจะค่อยๆหายไปเเต่
ก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นอีก บางรายอาจมีอาการรุนเเรงถึงขั้นปวดท้อง แน่นจมูก หายใจติดขัดหรือบางรายอาจมีอาการรุนเเรงมากถึงขั้นเสียชีวิต 

                    โดยอาการของลมพิษจะมีลักษณะเป็นผื่นเเดง นูน คันเเละผื่นจะมีขนาดที่ต่างกันออกไปอาจมีอาการเป็นๆหายๆได้ในบางราย นอกจากมีผื่นขึ้นเเล้วอาจมีอาการบวมที่ริมฝีปาก เปลือกตา เเขน ขาเเละหากบวมบริเวณกล่องเสียงอาจส่งผลให้เกิดอาการเสียงเเหบหรือหายใจลำบากเเละเป็นอันตรายได้ 

                    ลมพิษเเบ่งเป็น 2 กลุ่ม

         1.ลมพิษเฉียบพลัน (Acute Urticaria) คือ ผื่นลมพิษที่เป็นไม่เกิน 6 สัปดาห์โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจาก อาหาร ยาเเละการติดเชื้อ 

         2.ลมพิษเรื้อรัง (Chronic Urticaria) คือ ผื่นลมพิษเป็นๆหายๆ ซึ่งจะเป็นต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไป 

                    ปัจจัยเเละสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการลมพิษ 

         – อาหาร เช่น อาหารทะเล สารกันบูด สีผสมอาหารบางชนิด 

         – ยา 

         – การติดเชื้อ 

         – ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ 

         – อิทธิพลทางกายภาพ เช่น การเกิดผื่นลมพิษจากปฏิกิริยาของผิวหนังที่ตอบสนองกับความร้อน ความเย็น น้ำหนักกดรัด เเสงเเดดหรือการออกกำลังกายเป็นต้น 

         – แพ้สารที่สัมผัส เช่น ขนสัตว์ พืชหรืออาหารบางชนิด 

         – ปฏิกิริยาเเพ้พิษเเมลง 

         – มะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือระบบอื่นๆของร่างกาย 

         – ระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง 

         – ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยลมพิษเรื้อรัง 

                    ในการดูเเลรักษาเเละป้องกันลมพิษสามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการลมพิษ ควรสังเกตความผิดปกติเเละหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ดูเเลผิวหนังไม่ให้ตึงจนเกินไปเพื่อเป็นการลดความไวของผิวหนัง ไม่เเกะเกาผิวหนังเพราะอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบได้ การใช้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้เเพ้ชนิดไม่ง่วงเพื่อหลีกเลี่ยง
ผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น 

                    ผู้ป่วยลมพิษที่เป็นผื่นมาก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นลมพิษเเบบเฉียบพลัน มีอาการเเน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ปวดท้อง หน้าบวม ตาบวมเเละปากบวมเป็นอย่างมากควรรีบไปพบเเพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เเละรักษาเนื่องจากอาการเช่น เเน่นหน้าอกซึ่งเกิดจากบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจอาจส่งผลให้เกิดอาการหอบหืดถึงชีวิตได้ 

                    อาการลมพิษสามารถป้องกันได้ง่ายที่สุดด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะส่งผลให้เกิดลมพิษซึ่งสามารถทราบได้จากการสังเกตตนเองหรือจากคำวินิจฉัยของเเพทย์ หากมีอาการลมพิษเฉียบพลันเเละไม่หายภายใน 24 ชั่วโมงควรรีบไปพบเเพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด