ไทย
ไทย
English
ไทย
ไทย
English
ล็อกอิน/สมัครสมาชิก
No products in the cart.
0
THB, ฿
FOX v.1.4.1.5
logo
MENU
MENU
เกี่ยวกับเรา
สินค้า
หมอนหนุน
หมอนจัดท่านอน
ท็อปเปอร์
ที่นอน
หมอนหนุน
หมอนจัดท่านอน
ท็อปเปอร์
ที่นอน
โปรแกรมช่วยเลือกหมอน-ที่นอน
ร้านค้าออนไลน์
Mr.big Wellness
เรื่องราวสุขภาพ
หน้าร้าน
Facebook
Intragram
Twitter
เกี่ยวกับเรา
สินค้า
โปรแกรมช่วยเลือกหมอน-ที่นอน
ร้านค้าออนไลน์
Mr.big Wellness
เรื่องราวสุขภาพ
หน้าร้าน
Facebook
Intragram
Twitter
Menu
เกี่ยวกับเรา
สินค้า
โปรแกรมช่วยเลือกหมอน-ที่นอน
ร้านค้าออนไลน์
Mr.big Wellness
เรื่องราวสุขภาพ
หน้าร้าน
Facebook
Intragram
Twitter
logo
No products in the cart.
0
หน้าแรก
/ เรื่องราวสุขภาพ
/ กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease)
กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease)
มกราคม 4, 2023
Pillow+th
Share this :
Instagram
กรดไหลย้อน
(Gastroesophageal Reflux Disease : GERD)
หลายคนอาจจะสับสนว่าอาการที่เราเป็นอยู่ตอนนี้เป็นอาการของโรคกระเพาะหรือว่าเป็นอาการของกรดไหลย้อนอาการที่เกิดขึ้นคือบริเวณเหนือลิ้นปี่มีอาการเเสบร้อนหน้าอกหากรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆจะมีอาการเรอหรือเเสบร้อน นี่เป็นอาการของกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease) เกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ตลอดหรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารก็ตามส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองจากกรด พบได้ในทุกกลุ่มอายุโดยผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีเเอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ สตรีตั้งครรภ์ ผู้ที่ป่วยโรคผิวหนังเเข็ง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเเละผู้ที่ใช้ยาบางชนิด
สาเหตุของการเกิดกรดไหลย้อน
– ความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมี
ความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยกว่าคนปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ กาเเฟ ชา เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การสูบบุหรี่เเละยาบางชนิด
– ความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารที่รับประทานเคลื่อนตัวช้าลงหรืออาหารไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารมากกว่าปกติ
– ความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติเพิ่มโอกาสในการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาการสู่หลอดอาหารมากขึ้น
– พฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การเข้านอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร การสูบบุหรี่ ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เเละความเครียด เป็นต้น
– โรคอ้วน จะทำให้เพิ่มเเรงกดต่อกระเพาะอาหารทำให้กรดไหลย้อนกลับ
– การตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์ทำให้หูรูดหลอดอาหารอ่อนลงเเละมดลูกที่ขยายตัวจะเพิ่มเเรงกดต่อกระเพาะอาหาร
อาการของกรดไหลย้อนจะมีอาการเเสบร้อนบริเวณลิ้นปี่เเล้วลามขึ้นมาบริเวณหน้าอกเเละลำคอ เรอมีกลิ่นเปรี้ยวเพราะมีกรดซึ่งเป็นน้ำที่มีรสชาติเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมายังปากโดยอาการจะชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่รับประทานอาหารมื้อหนัก การโน้มตัวไปข้างหน้า การยกของหนักหรือการนอนหงาย อาการอื่นๆที่อาจพบได้คือ กลืนลำบาก กลืนเเล้วเจ็บ เรอบ่อย ไอเรื้อรังโดยเฉพาะในตอนกลางคืน เสียงแหบเรื้อรัง เจ็บคอ รู้สึกระคายเคืองทางเดินหายใจ เจ็บหน้าอกเเละยังพบว่าโรคกรดไหลย้อนอาจมีส่วนกับการเกิดไซนัสอักเสบเรื้อรังและหอบหืด โดยอาการของกรดไหลย้อนสามารถเเบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ
1. อาการที่เกิดขึ้นกับกระเพาะอาหารเเละหลอดอาหาร
2. อาการนอกหลอดอาหาร เเบ่งได้เป็น
– อาการคล้ายโรคหัวใจ จะมีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอกรุนเเรงเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด
– อาการทางปอด อาจมีอาการหอบหืด ไอเรื้อรัง ปอดอักเสบเรื้อรัง นอนกรนหรืออาจมีอาการหยุดหายใจขณะที่นอนหลับ
– อาการทางหู คอ จมูก เช่น จุกเเน่นในคอคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณลำคอ เจ็บคอเรื้อรัง เสมหะ ฟันผุ มีกลิ่นปากหาสาเหตุไม่ได้
ภาวะกรดไหลย้อนสามารถเเบ่งได้เป็น 3 ระดับคือ
ระดับที่ 1 เป็นระดับที่อ่อนที่สุดคือเป็นบ้างไม่เป็นบ้างหรือนานๆเป็นทีเเล้วก็หาย มีภาวะไหลย้อนนิดหน่อย ไม่มีอาการอะไรที่รบกนสุขภาพเรียกว่า “ภาวะการไหลย้อนที่กระเพาะอาหาร (Gastroesophageal Reflux-GER) ”
ระดับที่ 2 เกิดภาวะไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหารเฉพาะบริเวณใกล้ๆกับกระเพาะอาหารมีอาการที่รบกวรสุขภาพเรียกว่า “โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease-GERD)”
ระดับที่ 3 เกิดภาวะไหลย้อนที่รุนเเรงคือไหลเข้าสู่หลอดอาหารย้อนขึ้นมาจนถึงคอเรียกว่า “โรคน้ำย่อยกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าสู่หลอดคอ (Laryngopharyngeal Reflux-LPR)”
การปฏิบัติตัวของผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาเเฟ อาหารรสเผ็ด อาหารที่มีไขมันสูงเเละของทอด ไม่ดื่มเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ไม่ควรรับอาหารมากเกินพอดี ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปมากเกินไปควบคุมน้ำหนักโดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ หลีกเลี่ยงการนอนราบทันทีหลังจากการรับประทานอาหาร
ท่านอนที่เหมาะสมกับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน ควรใช้หมอนหนุนช่วงบริเวณศรีษะเเละลำตัวส่วนบนให้ยกสูงกว่าช่วงเท้าหรือท่านอนตะเเคงซ้ายเเละใช้หมอนหนุนช่วงศรีษะเเละลำตัวส่วนบนให้ยกสูงกว่าช่วงเท้าเพื่อเป็นการป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะมาสู่หลอดอาหาร
กรดไหลย้อนเป็นอาการที่สามารถพบได้บ่อยเเละทุกเพศทุกวัยสามารถที่จะเป็นได้อาจดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไรมากเเต่หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้เกิดภาวะเเทรกซ้อนได้ หากมีอาการที่รุนเเรงควรไปพบเเพทย์เพื่อทำการตรวจ รักษาเเละความรับประทานยาตามที่เเพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
Share this :
Instagram